ประวัติ ของ สุลต่านสุลัยมาน ชาห์

สุลต่านสุลัยมาน ชาห์ เป็นบุตรชายคนโตของดาโต๊ะโมกอล ซึ่งอพยพครอบครัวจากเมืองสาเลห์(ชวาภาคกลาง)[1] [2] โดยทางเรือมาตั้งหมู่บ้านที่ตำบลหัวเขาแดง ริมทะเลปากอ่าวสงขลา ในสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ ในประมาณปีพ.ศ. 2145 สมเด็จพระเอกาทศรถทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เป็นข้าหลวงผู้สำเร็จราชการนครสงขลา และดำรงตำแหน่งนี้จนถึงปี พ.ศ. 2163 จึงถึงแก่อสัญกรรม สุลัยมานจึงขึ้นครองนครสงขลาแทนบิดาในปี พ.ศ. 2163 ในฐานะผู้สำเร็จราชการนครสงขลาในสมัยพระเจ้าทรงธรรม

ต่อมาในปี พ.ศ. 2173 เจ้าพระยากลาโหมสุริยวงศ์ปราบดาภิเษกเป็นปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ปราสาททอง ทรงพระนามว่า "สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง" (ครองราชย์ พ.ศ. 2173-2199) สุลัยมานเห็นว่ามิใช่เป็นการสืบราชสันตติวงศ์ตามกฏมนเฑียรบาล จึงประกาศแข็งเมืองไม่ยอมขึ้นกับกรุงศรีอยุธยา และได้ประกาศเป็นรัฐอิสระตั้งแต่ปี พ.ศ. 2173 [3]


ครั้นต่อมาในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช(ครองราชย์ พ.ศ. 2199-2231) ในปี พ.ศ. 2223 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยารามเดโช(ชู)เป็นแม่ทัพยกทัพหลวงไปร่วมกับทัพหัวเมืองภาคใต้ มีกองอาสาสมัครโปรตุเกตและดัชท์ร่วมด้วย ยกไปปราบรัฐสุลต่านสงขลาจนได้รับชัยชนะ (ขณะนั้นมุสตอฟาพระราชโอรสพระองค์โตของสุลต่านสุลัยมานเป็นสุลต่านเมืองสงขลาอยู่ เนื่องจากสุลัยมานสวรรคตไปแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2211) ในครั้งนั้น สมเด็จพระนารายณ์มหาราชโปรดให้สลายเมืองสงขลาเสียแล้วให้มุสตอฟาย้ายไปอยู่ที่เมืองไชยา อันเป็นหัวเมืองตรีอยู่ทางเหนือของนครศรีธรรมราช ส่วนฮะซันและฮูเซ็นให้อพยพเข้ามาที่กรุงศรีอยุธยา [4]


ฮะซันนั้นได้เข้ามารับราชการอยู่ในกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในภายหลังต่อมาในรัชสมัยสมเด็จพระเพทราชา พระยารามเดโช(ชู)เจ้าเมืองนครศรีธรรมราชเป็นกบฏ พระยาราชวังสัน(มะหมุด)ซึ่งเป็นบุตรชายคงจะอยู่ไม่ได้หรืออาจเกิดเหตุการณ์ใดกับท่าน สมเด็จพระเพทราชาจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ฮะซันดำรงตำแหน่งพระยาราชวังสันแทน พระยาราชวังสัน(ฮะซัน)มีบุตรชื่อ ขุนลักษมณา(บุญยัง) ซึ่งต่อมาเป็นบิดาของเจ้าพระยาจักรี(หมุด)